วันจันทร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ข่าวสารประจำสัปดาห์ที่8

ประวัติ facebook
4 กุมภาพันธ์ 2548 Mark Zuckerburg ได้เปิดตัวเว็บไซต์ facebook ซึ่งเป็นเว็บประเภท social network
ที่ตอนนั้น เปิดให้เข้าใช้เฉพาะนักศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ดเท่านั้น
และเว็บนี้ก็ดังขึ้นมาในชั่วพริบตา เพราะแค่เพียงเปิดตัวได้สองสัปดาห์
ครึ่งหนึ่งของนักศึกษาที่เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด
ก็สมัครเป็นสมาชิก facebook เพื่อเข้าใช้งานกันอย่างล้นหลาม
และเมื่อทราบข่าวนี้ มหาวิทยาลัยอื่น ๆ ในเขตบอสตั้นก็เริ่มมีความต้องการ
และอยากขอเข้าใช้งาน facebook บ้างเหมือนกัน
มาร์คจึงได้ชักชวนเพื่อของเค้าที่ชื่อ Dustin Moskowitz และ Christ Hughes
เพื่อช่วยกันสร้าง facebook และเพียงระยะเวลา 4 เดือนหลังจากนั้น facebook
จึงได้เพิ่มรายชื่อและสมาชิกของมหาวิทยาลัยอีก 30 กว่าแห่ง

ไอเดียเริ่มแรกในการตั้งชื่อ facebook
นั้นมาจากโรงเรียนเก่าในระดับมัธยมปลายของมาร์ค ที่ชื่อฟิลิปส์
เอ็กเซเตอร์ อะคาเดมี่ โดยที่โรงเรียนนี้
จะมีหนังสืออยู่หนึ่งเล่มที่ชื่อว่า The Exeter Face Book ซึ่งจะส่งต่อ ๆ
กันไปให้นักเรียนคนอื่น ๆ ได้รู้จักเพื่อน ๆ ในชั้นเรียน ซึ่ง face book
นี้จริง ๆ แล้วก็เป็นหนังสือเล่มหนึ่งเท่านั้น จนเมื่อวันหนึ่ง
มาร์คได้เปลี่ยนแปลงและนำมันเข้าสู่โลกของอินเทอร์เน็ต

เมื่อประสบความสำเร็จขนาดนี้ ทั้งมาร์ค ดัสติน และ ฮิวจ์
ได้ย้ายออกไปที่ Palo Alto ในช่วงฤดูร้อนและไปขอแบ่งเช่าอพาร์ทเมนท์
แห่งหนึ่ง หลังจากนั้นสองสัปดาห์ มาร์คได้เข้าไปคุยกับ ชอน ปาร์คเกอร์
(Sean Parker) หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Napster จากนั้นไม่นาน
ปาร์คเกอร์ก็ย้ายเข้ามาร่วมทำงานกับมาร์คในอพาร์ตเมนท์
โดยปาร์คเกอร์ได้ช่วยแนะนำให้รู้จักกับนักลงทุนรายแรก ซึ่งก็คือ ปีเตอร์
ธีล (Peter Thiel) หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Paypal และผู้บริหารของ The
Founders Fund โดยปีเตอร์ได้ลงทุนใน facebook เป็นจำนวนเงิน 500,000
เหรียญสหรัฐฯ

แหล่งที่มา www.bloggang.com/viewdiary

วันอังคารที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ข่าวสารประจำสัปดาห์ที่ 7

เปิดใจชาว Facebook กับภารกิจรัก ‘ในหลวงในดวงใจ’

ความเห็น (0) By EZ Editor Bow, สิงหาคม 4, 2010 11:34 am
บนโลกไซเบอร์หลายคนอาจมองว่าหาความจริงใจได้ยากที่จะสร้างมิตรภาพได้อย่าง ยั่งยืน แต่สำหรับในสังคมออนไลน์กลุ่ม Facebook นั้นแสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็นคนอีกกลุ่มหนึ่งที่มีความเป็นหนึ่งเดียวกัน และมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน นั่นก็คือการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อในหลวง
เป็น เวลาหลายเดือนแล้วที่ชุมชนออนไลน์ในเว็บไซต์ยอดนิยมอย่าง Facebook (เฟซบุ๊ก) ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงออกทางสังคมอย่างตรงไปตรงมาเพียงเหตุผลเดียวก็ คือความจงรักภักดีที่มีต่อในหลวง วันนี้มีโอกาสได้ไปพบเจอกับกลุ่มคนออนไลน์เหล่านี้ในงานที่พวกเขาจัดขึ้น เพื่อการแสดงจุดยืนของตนเองที่งาน “ในหลวงในดวงใจ” เลยได้เข้าไปพูดคุยกับตัวแทนของกลุ่มก็คือคุณปีเตอร์ ซึ่งได้เล่าว่า Continue reading 'เปิดใจชาว Facebook กับภารกิจรัก ‘ในหลวงในดวงใจ’'»

แหล่งที่มา http://variety.eduzones.com/facebook/category/%e0%b8%82%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%a7-facebook/

วันอังคารที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ส่งงานe-books

เกษตรตาบล ในระดับอาเภอก็มีเจ้าหน้าที่สานักงานเกษตรอาเภอถ้าต้องการทราบข้อมูล เกี่ยวกับดินและปุ๋ย .... ทันโลก เกษตรกรบนแผ่นกระดาษ รู้ไว้ใช่ว่า เป็น ...
p87692182029.pdf - book search ดาวน์โหลดไฟล์ที่นี่ untitled
ที่มาhttp://e-bookmarket.com/index.php?keyword=%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A9&page=results&filetype=pdf&x=62&y=9
เกษตรก้าวหน้า
เกษตรใหม่ให้ม ีประสิทธิภาพมากขึน เพราะได้มีการวางแผนการผลิตการตลาดเอาไว้ล่วงหน้า แล้ว ทําให้. ในอนาคตประเทศไทยจะสามารถซือขายพืชผลล่วงหน้าได้ด้วย ทําให้ภ ...
Agri.pdf - book search เกษตรก้าวหน้า
ที่มาhttp://e-bookmarket.com/index.php?keyword=%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88&page=results&filetype=pdf&x=77&y=17
มีงานสวนหนึ่งที่ทําโดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรเริ่มมาเมื่อ 2 ปที่แลว .... ในวันที่2 มิถุนายนนี้ทางสมาคมสื่อมวลชนเกษตรแหงประเทศไทยรวมกับ มก. ...
kaseatyukmai.pdf - book search เกษตรยุคใหม่ ให้ปุ๋ยแบบสั่งตัด
ที่มาhttp://e-bookmarket.com/index.php?keyword=%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88&page=results&filetype=pdf&x=77&y=17

วันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ข่าวประจำสัปดาห์ที่6

ความเป็นมาของ Facebook ที่ทำให้เด็กหนุ่มเป็นเศรษฐี
Facebook คืออะไร
Facebook ก็คือ Soical Networking เว็บไซต์หนึ่งที่มีผู้นิยมใช้งานกันมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
เพียงแค่เราสมัครเป็นสมาชิกกับ Facebook
เราก็จะสามารถแบ่งปันข้อมูล รูปภาพ ความรู้สึกผ่านทางหน้าเว็บไซต์ของ Facebook ได้ และที่สำคัญมากที่เป็นจุดประสงค์หลักของ
Facebook ก็คือ การหาเพื่อนเก่าผ่านทาง Facebook และสามารถหาเพื่อนใหม่ๆ ได้จากทุกมุมโลกเช่นกัน แต่ดูเหมือนว่า Facebook
จะมีหลักการเช่นเดียวกันการบันทึกลง "หนังสือรุ่น" นั่นเอง แต่แน่นอน เนื่องจากเป็นเว็บไซต์ Facebook จึงทำอะไรๆ ได้มากมายก็ หนังสือรุ่นธรรมดา
ที่มาของ Facebook
จุดเริ่มต้นมาจาก Mr. Mark Zuckerburg ในสมัยที่เป็นนักศึกษา มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ได้แนวคิดมาจาก
การเขียนหนังสือที่ใช้สำหรับแนะนำตัวกับเพื่อนใหม่ในชั้นเรียน และนำมาดัดแปลงมาเป็นเว็บไซต์ในโลกของอินเตอร์เน็ต
เริ่มต้นก็ใช้ในระดับมหาวิทยาลัย และแพร่กระจายไปเรื่อยๆ จนกระทั่งล่าสุดมีผู้ที่เป้นสมาชิก Facebook มากถึง 500 ล้านคนแล้ว
เรียกว่าปัจจุบัน Mr. Mark Zuckerburg ได้กลายเป็นเศรษฐีที่อายุน้อยคนหนึ่งของโลกเลยทีเดียว ปัจจุบัน Facebook
ได้มีการแปลเป็นภาษามากมาย รวมทั้งภาษาไทยด้วย และที่ทำให้เป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วมากขึ้น เห็นจะมาจากการให้บริการฟรี
แหล่งที่มา www.voicetv.co.th

วันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ข่าวประจำสัปดาห์ที่5

Facebook เพิ่มหน้าเว็บเป็นส่วนตัวบนมือถือ

Facebook ได้เพิ่มหน้าเว็บปรับแต่งการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวบนมือถือ โดยให้ผู้ใช้เข้าไปที่ m.facebook.com/privacy โดยตรง หรือเข้าหน้า Settings แล้วคลิกลิงก์ Change ในหัวข้อ Privacy Settings

เท่าที่เห็นจากรูปในเว็บที่มา (เนื่องจากบัญชีผู้ใช้ของผมยังเข้าถึงหน้าเว็บดังกล่าวไม่ได้) เราสามารถเลือกได้ว่าเพื่อนกลุ่มใด (เพื่อนเท่านั้น เพื่อนของเพื่อน หรือทุกคน) จะสามารถมองเห็นคอนเทนต์ที่เราโพสต์ นอกจากนั้นยังสามารถเรียกดู (เข้าใจว่าแก้ไขได้ด้วย) การตั้งค่าไดเร็กทอรีข้อมูลพื้นฐานให้คนอื่นสามารถค้นหาเราได้ การตั้งค่าหน้าโปรไฟล์ที่จะปรากฏเมื่อมีคนค้นหาผ่านเสิร์ชเอนจิ้น รวมถึงรายชื่อผู้ที่ถูกบล็อคได้ด้วย

ใครเข้าถึงหน้าเว็บ m.facebook.com/privacy ได้แล้วช่วยมาเล่าสู่กันฟังหน่อย ว่ามีการตั้งค่าอะไรบ้าง ขอบคุณครับ :D

ที่มา: www.FacebookBlog.com

ข่าวประจำสัปดาห์ที่4

Facelook กับการได้งานหรือตกงาน


นาทีนี้ใครไม่รู้จักเจ้า หน้าหนังสือ face book
social network ที่มีประชากรมากมายเล่นกันทั่วโลก เห็นทีจะตามโลกไม่ทันแน่
ถูกจัดให้เป็นประเทศเฟซบุ๊คที่มีคนมากเป็นอันดับสี่ของโลกรองจากจีน อินเดีย สหรัฐอเมริกา

แต่ใครที่เล่นไม่เป็นเวลา ไม่บันยะบันยัง ต้องขอเตือน
ไม่ใช่แค่เล่นในเวลางานแล้วเสียงานเท่านั้น
แต่ตอนนี้บริษัทใหญ่ ๆ ที่ก้าวหน้า เค้าจะตรวจสอบคนที่มาสมัครงานไว้จาก face book
ใครนิสัยอย่างไร ทัศนคติเป็นแบบไหน เหมาะกับงานหรือเปล่า
เป็นคนสำมะเลเทเมาหรือคนดูแลสุขภาพ อะไรที่ปิดไว้ตอนสัมภาษณ์ รับรองว่าปิดไม่มิดแน่

อีกเรื่องที่น่ากลัวคือ เขาจะดูไปถึงความถี่ที่เข้าไปใช้งาน
เรียกว่าใครวัน ๆ เอาแต่เล่น เดี่ยวอัพเดท อยู่บ่อย ๆ ฝ่ายทรัพยากรบุคคลเอาอาจสุ่มดูได้
หรือกำลังสมัครงานอยู่ เขาอาจไม่เรียกสัมภาษณ์เน้อ

เฮ้อ โลกสมัยใหม่ ก็ต้องตามกันให้ทัน ทุกอย่างมีสองด้านเสมอ
เลือกใช้ให้ถูกกับตัวเอง เลือกดีก็ได้ดี นะ

ความคิดเห็นส่วนตัว คิดว่าเป็นข้อมูลที่นำมาใช้ตัดสินใจได้ส่วนหนึ่งเท่านั้น
ที่มา : http://www.never-age.com